Quantum Break จะเป็นที่มีมุมมอง TPS หรือมุมมองบุคคลที่สามตามสไตล์เกมคอนโซลมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทดลองเดินทางข้ามเวลาในมหาวิทยาลัย Riverport นำโดย Jack Joyce กับ Serene แต่การทดลองนี้ทำให้เกิดการทับซ้อนของเวลาและทั้งคู่ก็ได้รับพลังที่สามารถควบคุมเวลาได้แต่ Serene นั้นเขาได้กลับมาพร้อมกับเป้าหมายที่จะทำลายล้างโลกและนั่นก็ทำให้ Jack ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทเป็นคนขัดขวางแผนการนี้ให้ได้

Quantum Break จะเป็นที่มีมุมมอง TPS หรือมุมมองบุคคลที่สามตามสไตล์เกมคอนโซลมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทดลองเดินทางข้ามเวลาในมหาวิทยาลัย Riverport นำโดย Jack Joyce กับ Serene แต่การทดลองนี้ทำให้เกิดการทับซ้อนของเวลาและทั้งคู่ก็ได้รับพลังที่สามารถควบคุมเวลาได้แต่ Serene นั้นเขาได้กลับมาพร้อมกับเป้าหมายที่จะทำลายล้างโลกและนั่นก็ทำให้ Jack ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทเป็นคนขัดขวางแผนการนี้ให้ได้

แน่นอนว่าเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาฉะนั้นตัวเกมเพลย์ก็จะเกี่ยวกับกาลเวลาทั้งสิ้นโดยผู้เล่นจะได้รับพลังที่สามารถควบคุมเวลาได้ถึง 3 รูปแบบได้แก่ Time Stop จะให้ผู้เล่นกางโดมในพื้นที่ด้านหน้าซึ่งศัตรูที่อยู่ในโดมจะเคลื่อนที่ช้าลงและผู้เล่นสามารถยิงกระสุนให้ทับซ้อนในโดมนั้นได้ครับ

อย่างที่สองจะเรียกว่า Time Dodge จะทำให้ตัวละครเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วคล้าย ๆ กับระบบ Slow-mo ใน Max Payne แต่เป็นเวอร์ชั่นความเร็วสูงมีประโยชน์สำหรับใช้บุกปะทะระยะใกล้เช่นพุ่งเข้าระยะประชิดเพื่อใช้ปืนลูกซองหรือใช้เพื่อไล่ล่าศัตรูเพราะศัตรูในเกมนี้จะมีความสามารถเคลื่อนที่ความเร็วสูงเหมือนกัน

สิ่งสุดท้ายคือ Time Shield จะเป็นคล้าย ๆ การกางบาเรียรอบตัวเพื่อให้ทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ช้าลงใช้สำหรับการหลบกระสุนที่พุ่งเข้ามา ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ถ้าหากใช้ให้คล่องแล้วก็จะไม่โดนโจมตีเลยแต่ถึงอย่างนั้นพอได้เล่นจริง ๆ กลับพบว่าการควบคุมหรือใช้พลังแต่ละอย่างค่อนข้างลำบากใช้ยากพอสมควร

นอกเหนือจากนี้ระบบอื่น ๆ ก็จะมีการปรับโหมดภาพคล้ายคลึงกับ Eagle Vision ของ Assassin Creed ที่สามารถมองเห็นวัตถุในเกมที่สามารถหยิบมาใช้ประโยชน์ได้ ส่วนอาวุธก็เป็นพวกปืนมีให้เลือกหลากหลายเช่นปืนไรเฟิล , SMG , ปืนพก , ลูกซองและเมื่อผสานกับระบบควบคุมเวลา 3 แบบข้างต้นผู้เล่นจะสามารถผสมผสานการโจมตีด้วยอาวุธชนิดต่าง ๆ ได้อิสระ อย่างไรก็ตามในส่วนของเกมเพลย์โดยรวมนั้นถือว่ายังไม่สมบูรณ์แบบนักเพราะมีการใช้พลังควบคุมเวลาค่อนข้างยากบวกกับควบคุมการเคลื่อนไหวตัวละครให้หันซ้ายขวาหลบเข้าที่กำบังหรือเล็งปืนใส่ศัตรูเป็นไปอย่างยากลำบากแต่ถึงอย่างนั้นก็ตอบสนองความมันส์ได้ดี

ทางด้านเนื้อเรื่องก็จะมีการดำเนินเรื่องแบบ TV ซีรี่ส์เป็นตอน ๆ ไปโดยจะมีการตัดสินใจให้เลือกด้วยซึ่งการตัดสินใจแต่ละครั้งของผู้เล่นมันก็จะส่งผลต่อการตัวเกมในอนาคตให้ความรู้สึกประมาณว่าเป็น Butterfly Effect ก็ถือว่ามีความซับซ้อนในระดับหนึ่งทีเดียวหรืออาจะเรียกว่ามีเนื้อเรื่องเทียบเท่าเกม Pixelated อย่าง Uncancy Valley เลยล่ะครับ