วันพุธที่ 09 ธันวาคม 2009 เวลา 18:59 น.
ในที่สุด Assassin's Creed ก็ได้ออกมาในเวอร์ชั่น PSP แล้ว โดยใช้ชื่อภาคว่า Assassin's Creed : Bloodlines โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อจาก Assassin's Creed ภาคแรก ที่มีตัวเอกเป็น Altair สำหรับใครที่เคยเล่นเกม Assassin's Creed ในภาคแรกมาแล้วไม่ควรพลาดภาคนี้เป็นอย่างยิ่ง
เนื้อเรื่อง
ภาค ที่ลงให้ PSP นี้ใช้ชื่อภาคว่า Bloodlines เนื้อเรื่องจะต่อมาจากภาค 1 ว่าด้วยเหตุการณ์หลังจาก Altair (ตัวเอก) นักฆ่าหน้ามืด(คือเจ้าตัวใส่ Hood คลุมล่อมาครึ่งหน้าอยู่ตลอดเลยมองไม่เห็นหน้า แป่ว) สามารถสังหาร Robert De Sable ได้แล้ว พวกเทมพลาร์ ได้ยกพลล่าถอยไปยังดินแดนแห่งใหม่ และ Altair ก็ติดตามศัตรูของเขาไปยังที่นั่นด้วย และดินแดนใหม่ที่ Altair ต้องไปสู้ก็คือเกาะ Cyprus ที่นี่เอง Altair ได้ พบกับพรรคพวกใหม่ที่เป็นชาวพื้นเมือง แต่ก็ต้องพบกับศัตรูใหม่เช่นกัน มันก็คือผู้บัญชาการเทมพลาร์คนใหม่ที่น่าสะพรึงกลัว ภารกิจของ Altair ในครั้งนี้คือต้องหยุดยั้งและกำจัดพวกเทมพลาร์ที่มีเป้าหมายในการออกตามหา Pieces of Eden ให้ได้ในครั้งนี้ Altair เลือกที่จะเป็นฝ่ายเปิดเกมก่อนด้วย และไม่ต้องตกใจถ้าผู้คนในเกมนี้จะเบาบางเหลือขนาดผิดกับภาคแรกมากมาย ในเกมมันมีการอธิบายไว้ว่าพวกผู้คนในเมืองต่างๆนั้นกลัวพวกเทมพลาร์ขนาดหนัก จนต้องหลบหน้าหลบตาไม่ออกมาเพ่นพ่านเหมือนอย่างภาค 1
ภาพ,แสง,สี,เสียง
คำ แรกที่จะบอกเลยคือมันเหมือนที่เห็นในScreenshotsเลย(ดูจากในจอตอนที่เล่นนะ ไม่ได้ดูจากภาพที่แคปมา)แล้วมันแปลกตรงไหน ? คือส่วนใหญ่ภาพ SS บางเกมมันจะถูกแต่งๆเติมๆให้ดูสวยเวอร์กว่าของจริง และเกมนี้ก็ดูแล้วเหมือนจะเป็นแบบนั้นแต่ไปๆมาๆไม่ใช่คุณภาพกราฟฟิคในเกม เหมือนใน SS เลยแต่ถึงกระนั้นไม่ได้หมายความว่าเกมนี้ภาพสวยเว่อร์อะไร มันก็ดูธรรมดาน่ะแหละ(บางจุดอาจถึงขั้นหยาบ)แต่บางจุดก็ถึงขั้นสวยจริงๆ (ด้วยแสงและเงาช่วย) และใน SS มันก็เอาพวกจุดที่สวยๆตรงนั้นมาน่ะล่ะ เกมนี้จะมี Bloom หลอกตาในบางฉากบางตอนช่วยกลบเกลื่อนให้ภาพดูสวยหลอกๆแต่บางฉากที่ไม่มีนี่ เห็นความหยาบและแห้งของพื้นผิวต่างๆได้ทันทีทันใดเลย แต่รายละเอียดของตัว Altair นั้นจัดได้ว่าสวยงานใช้ได้ครับ ส่วนพวกสภาพแวดล้อมต่างมันสวยขึ้นๆลงๆ ตามสภาพแสง-เงาในเกม อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกัน ระบบเสียงในเกมนี้เข้าขั้นธรรมดา มีเสียงพากย์เสียงพูดของตัวละคร แต่เสียงกับท่าทางอารมณ์ในฉากสนทนาตามเนื้อเรื่องมันดูไม่ค่อยจะไปด้วยกัน เลยดูโดดๆพิกลๆส่วนเสียงในส่วนของการต่อสู้ การฟันดาบโช้งเช้งเสียงตะโกนโอ้กอ้ากเวลาโดนแทงก็ถือว่ามีอยู่แต่ไม่ได้โดด เด่นอะไรเป็นพิเศษส่วนดนตรีประกอบก็เปลี่ยนไปตามแต่ละเมือง แต่เสียงพูดอธิบายของไอเจ้าเครื่อง Animus นั้นแบบเดียวกับภาค 1 เป๊ะๆก็ได้อารมณ์เก่าๆดี
ระบบการเล่น
จริงๆ บอกว่าเหมือนกับภาค 1 ก็น่าจะพอ แต่เดี๋ยวมันจะสั้นไปและบางคนอาจไม่เคยเล่นภาค 1 หรือไม่รู้จักเกมนี้มาก่อนอาจจะงงได้ก็จะขยายความให้ฟัง เกมนี้เป็นเกมแนว แอคชั่น-ลอบสังหาร ที่จุดเด่นของมันมีอยู่ 3 จุดคือ
1 อิสระในการเดินเล่นในเมือง อิสระในการเลือกเส้นทางที่จะไปทำ/ไปหาภารกิจ (ลองนึกถึง GTA แต่แผนที่อาจจะเล็กกว่าและแบ่งเป็นโซนๆ)ในภาค PSP นี้จะมีทั้งหมด 2 เมืองหลักๆแต่ละเมืองจะซอยย่อยเป็นเขตต่างๆมากมายให้เราได้ผจญภัยไปลอบ สังหารกัน โดยแต่ละเมืองก็จะมีภารกิจให้ทำ ในเกมจะเรียกว่า Momory Block ซึ่งก็เหมือนกับเนื้อเรื่องให้เราเลือกเล่น โดยแต่ละเนื้อเรื่องก็จะต่าง Memory กันไป
2 การปีนป่ายตามสไตล์นักกายกรรมตัวน้อง(ตัวพี่ยกให้เจ้าชายจาก POP)ที่สามารถปีนป่ายได้แทบจะทุกอย่างในฉากตั้งแต่ผนังบ้าน(ใครก็ไม่รู้) ประตู หน้าต่าง คือเห็นอะไรก็วิ่งเข้าใส่ไปเหอะ ส่วนใหญ่มันปีนได้หมด ซึ่งก็ทำได้ไม่ยากเลยแค่หันหน้าวิ่งใส่ของที่เราต้องการจะปีนป่าย โดดข้าม เกาะเกี่ยว กดบังคับเหมือนตอนเดินเหิรปกติเลย
3 การต่อสู้ที่แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ลอบสังหาร / บู๊แหลก ในส่วนของการลอบสังหารจะทำได้สองวิธีคือใช้มีดลับที่ซ่อนอยู่ที่แขนในการปิด ชีพศัตรูผู้โชคร้ายจะเดินไปเสียบแบบนิ่มๆหรือจะวิ่งกระโดดเข้าใส่แล้วเสียบ ก็ทำได้กับอีกวิธีคือใช้มีดสั้นปาปลิดชีพเป้าหมายจากระยะไกล *สำหรับ PSP นี้ถือว่าเล่นง่ายมากๆเลยเพราะมีมีดสั้นมาให้ตั้งแต่เริ่มเกมแถมพอปาใส่ ศัตรูตายปุ๊บมันก็จะทิ้งมีดเอาไว้เราก็เข้าไปเก็บกลับมาได้ยังดีที่ใช้ปา เป้าหมายหลักไม่ได้ไม่งั้นมันจะง่ายเกินไป* ส่วนการบู๊แหลกจะเอาไว้ใช้เวลาโดนจับได้หรือภารกิจไม่บังคับให้ลอบสังหารก็ ใช้วิธีบู๊แหลกได้ โดยอาวุธหลักก็คือดาบการโจมตีในเกมนี้เราต้องกดให้เป็นจังหวะ Altair ถึงจะโจมตีต่อเนื่องได้ไม่เสียจังหวะหรือรอสวนกลับเอา ไม่ใช่กดรัวๆยิกๆ ซึ่งก็เป็นความสนุกที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก อนึ่งในกรณีที่ศัตรูมันจับเราได้และจ้องเล่นงานเรา มีดสั้นของเราจะกลายเป็นมีดที่ใช้ต่อสู้แทนใช้ในการต่อสู้ได้เหมือนดาบ ส่วนมีดลับก็ใช้สวนกลับศัตรูได้เหมือนกัน (แต่ใช้โจมตีไม่ได้เพราะศัตรูจะกันได้)
เรื่องภารกิจต่างๆในเกมนี้ส่วน ใหญ่ก็จะให้อารมณ์การเล่นคล้ายๆกันหมดมีตั้งแต่ ลอบสังหารเป้าหมาย.ขโมยของ,ส่งข้อความ,หาข้อมูล,ช่วยคน,ตามเป้าหมาย พวกที่ไม่ใช่ภารกิจหลักเกมจะยังไม่ขึ้นสัญลักษณ์บอก ต้องไปทำการสำรวจฉากซะก่อนซึ่งทำได้โดยต้องไปปีนจุด View Point ซะก่อนตัวเกมถึงจะ mark พวก Side Mission ต่างๆให้ และนอกจาก Side Mission แล้วยังมีการเก็บ Templar Coins เพื่อนำมาใช้ในการอัพเกรดตัว Altair ด้วย ความสามารถที่อัพเกรดได้ก็จะมีตั้งแต่เพิ่มจำนวนของมีดสั้นที่พกไป , เพิ่มขีดพลังชีวิต , เพิ่มความแรงของดาบ , การ์ดอัตโนมัติ , เพิ่มอัตราการติดคริติคอล , เพิ่มความเร็วในการฟื้นพลัง , เพิ่มความเร็วในการซ่อนตัว เป็นต้น
AI ต่างๆในเกมนี้ก็ถือว่าตามเรื่องตามราวคือถ้าเป็นพวกทหารหรือศัตรูเรา(สังเกต ใน minimap มันจะเป็นจุดสีเหลือง)ถ้าเกิดมันเจอเราปุ๊บมันจะเพ่งเล็งเราทันที ถ้าเราออกอาการวิ่งหรือปีนป่ายให้มันเห็นมันก็จะตะโกนๆแล้วไล่จับเราในทันที วิธีแก้คือพอจ้ะเอ๋กับมันก็ต้องค่อยๆเดินแบบแฝงตัว(Blend)มันถึงจะไม่สนใจ ส่วนพวกชาวบ้านที่มีอยู่น้อยนิดนั้นก็ไม่มีอะไรมากแค่คอยเดินไปเดินมาขวาง ทางผู้เล่นให้การหนีมันดูมีอุปสรรคขึ้นมาอีกนิดนึง มีวี้ดว้ายบ้างกรณีที่เห็นเราสังหารใคร
*** อนึ่งการเซฟในเกมนี้จะกวนมากๆคือมันจะไม่มีคำสั่งให้เราเซฟเกมเลยแต่จะมีตัว เลือกให้เปิด-ปิดระบบAuto-Save ซึ่งถ้าเปิดไว้มันจะเซฟเกมถี่มากทำนู่นนิดนี่หน่อยก็เซฟแล้วแต่ถ้าปิดไว้เรา ก็ไม่รู้จะซฟเกมยังไง
สรุป
เกม นี้ถ้าจะนับแค่ในส่วนระบบการเล่นตอนอยู่ในคอนโซล,พีซีมันก็ไม่ได้ดีเลิศทุก คนชื่นชอบอะไรซักเท่าไหร่เข้าข่ายซ้ำซากเลยล่ะ(มันจะเด่นก็อีตรงเนื้อเรื่อง นี่แหละ)ภารกิจแต่ละเมืองๆจะเหมือนกันหมด ซึ่งของ PSP ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน แถมยังมีเมืองแค่ 2 เมืองเองด้วยเมื่อการเล่นซ้ำซากมาผสมกับตัวฉากที่น้อยบางคนก็อาจจะเบือนหน้า หนีได้และตัวเกมเท่าที่เล่นดูค่อนข้างจะสั้นพอควรมีอยู่ 7 Memory Block แต่หลักๆจะอยู่ที่ Block 2-5 ส่วน1เป็นส่วนของการฝึกและ7เป็นส่วนปิดฉาก ถ้าเล่นแบบรีบๆรวดเดียวทำแต่ภารกิจหลักน่าจะจบได้ในเวลาไม่ถึง 3-4 ชั่วโมงในภาคนี้มี achievement ให้ทำด้วยก็จะประมาณฆ่าศัตรูด้วยวิธีนั้นวิธีนี้ให้ได้ตามกำนด เก็บเหรียญของพวกเทมพลาร์ในเมืองนั้นเมืองนี้ให้ครบอะไรทำนองนี้ก็ถือซะว่า ช่วยเพิ่มเป้าหมายในการเล่นขึ้นมาอีกนิดนึง แล้วผู้เล่นสามารถย้อนกลับมาเล่นด่านเก่าๆได้อาจจะเล่นขำๆหรือเพื่อเก็บราย ละเอียดให้ครบก็ได้ ถ้าคิดดูดีๆนี่เป็นเกมแรกของPSPเลยที่เป็นแบบเปิดกว้างบวกกับการเล่นแบบลอง สังหารกายกรรม ซึ่งก็ถือว่าสดใหม่พอสมควรสำหรับPSPและจุดนี้น่าจะทำให้แฟนๆ PSP สนุกไปกับมันได้ แต่ถ้าเคยเล่นภาค 1 มาแล้วไม่ค่อยชอบหรือเฉยๆอันนี้ก็ต้องคิดให้หนักๆหน่อย
ข้อดี
-เหมือนเล่นภาค 1 แบบมินิอยู่เลย (พวกหน้าตาของเมนูอะไรต่างๆ แม้กระทั่งเทรนนิ่งนี่ของภาค 1 นี่ชัดเลย)
-กราฟฟิคในส่วนของตัว Altair นี่จัดว่าดูดีทีเดียวนะ และส่วนอื่นๆก็ถือว่าใช้ได้
-เนื้อเรื่องช่วยแก้ขัดให้หายคิดถึง Altair ได้ เพราะภาค 2 ตัวเอกไม่ใช่ Altair แล้ว
-ระบบ Boss Fight ทำให้ตัวเกมดูสนุกขึ้น(เทียบกับภาค 1 ที่กระโดดแทงฉึกเดียวตาย)
-ถือเป็นเกมแนวเปิดกว้าง + กายกรรมสังหาร เกมแรกของ PSP เลย
ข้อเสีย
-ภารกิจซ้ำซากตามสไตล์ตั้งแต่สมัยภาค 1 แล้ว (ถ้าคนไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย)
-ระยะเวลาในการเล่นในส่วนเนื้อเรื่องหลักค่อนข้างจะสั้นเอามากๆ
-ตัวเกมง่ายไปสามารถสู้ 1 ต่อ 10 ได้สบายๆ เลยไม่กลัวที่จะโดนจับได้ ทำให้ส่วนของการไปซ่อนมันดูด้อยค่าไป
-บรรดาผู้คนในภาคนี้น้อยเหลือเกินแต่ในเนื้อเรื่องมันก็มีคำอธิายมากลบเกลื่อน (PSP ก็ได้แค่นี้ล่ะ)
-CG Movie ในเกมมีแค่อันเดียวคือฉากเปิดตอนไตเติ้ล นอกนั้นใช้ภาพกราฟฟิคในเกมทั้งหมด
-แม้จะมีเสียงพูด เสียงดนตรี แต่มันก็ดูโดดๆลอยๆ ไม่อินไปกับเกมอย่างบอกไม่ถูก
คะแนน 7 / 10 (อยู่ในเกณฑ์"ก็ดี"โดยเฉพาะแฟนๆที่มี PSP จะเล่นให้หายคิดถึง Altair ก็ไม่เลว)
แถมท้ายหน่อยว่าด้วยความแตกต่างจากภาคหลักถ้าไม่นับเรื่องคนน้อยก็คือ
1 ไม่มี Eagle Visoin ไว้มองหาเป้าหมาย
2 ไม่มีการขี่ม้าข้ามเมือง หรือขี่ม้าไปนู่นไปนี่แล้ว
3 ไม่มีการล้วงกระเป๋า
4 ไม่มีภารกิจแอบฟัง
5 ไม่มีการเดิมผลักผู้คน(เพราะมันน้อยเหลือเกิน)
6 เป้าหมายหลักไม่สามารถลอบสังหารได้แล้ว ต้องเข้าไปสู้ซึ่งหน้า
7 เสียง Altair เปลี่ยนไปไม่ใช่คนเดิม
8 ทีมสร้างคนละทีมกับภาคหลัก
เครดิต : http://www.vagabondteam.com