วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 02:10 น.
Alice Madness Returns อีกหนึ่งเกมส์ที่น่าจับตามองพอสมควร ด้วยเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ และอิงกับนวนิยายที่โด่งดัง เรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อ อลิซ ที่มีอาการทางจิตใจขั้นรุนแรง ที่เกิดจากครอบครัวถูกไฟคลอกบ้านทั้งหลัง ทำให้เธอทนรับกับความเป็นจริงไม่ได้ ทำให้เธอไม่กล้าเผชิญความจริงและต้องต่อสู้กับปิศาจร้ายในจินตนาการของตัวเอง
ยอมรับตามตรงเลยว่า American McGee's Alice คือหนึ่งในเกมที่ผมชื่นชอบมากที่สุดเกมหนึ่ง จริงล่ะที่ว่าเกมมันโคตรจะเก่าเลย แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่น หนูน้อยมืดมนสุดโมเอ้ (?) นามว่า Alice Liddell , Wonderland อันแสนจะบิดเบี้ยว และเนื้อหาอันน่าสนใจมากมายอย่างที่ยากจะพบได้ในเกมอื่น American McGee's Alice จึงยังตั้งอยู่บนหิ้งของผมมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ หรืออย่างน้อยก็จนกระทั่ง American McGee's Alice 2 หรือในนามจริงที่ใช้แจ้งเกิดว่า Alice : Madness Returns จะถูกถีบส่งเข้ามาในฮาร์ดิสถ์ของผมในค่ำวันที่ ๑๔ มิถุนายน ที่ผ่านมาล่ะนะ http://www.pspinw.com
แน่นอนว่าตัวเอกใน Alice : Madness Returns นั้นก็ยังคงเป็น Alice Liddell เช่นเคย เพียงแต่ว่าในภาคนี้นั้น ตัวเธอเอง (ในโลกแห่งความเป็นจริง) ได้โตเป็นสาวแล้ว เพราะหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกก็นับได้เป็นเวลาถึง ๑๑ ปีเลยทีเดียว ในที่สุด Alice Liddell ก็สามารถที่จะหนีพ้นจาก Rutledge Asylum ได้สำเร็จและได้ย้ายออกมาอาศัยอยู่ใน London ภายใต้การดูแลของ Dr. Angus Bumby และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ใน Madness Returns จริงล่ะที่ว่าเธอพ้นจาก Rutledge Asylum มาได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าฝันร้ายของเธอจะจบสิ้นลงแต่อย่างใด ใน Madness Returns นี้ คุณจะได้รับบทเป็น Alice Liddell อีกครั้งหนึ่งเพื่อออกเดินทางค้นหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่คร่าชีวิตครอบครัวของเธอไปเมื่อ ๑๑ ปีก่อนภายใน Wonderland อันบิดเบี้ยว เกิดอะไรขึ้นกันแน่เมื่อ ๑๑ ปีก่อน ใน Madness Returns นี้เราจะพบคำตอบที่แท้จริงกันครับ
๑๑ ปีแล้ว แต่ความทรงจำเก่าๆก็ยังคงอยู่และตราตรึงแน่เช่นเดิม
ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น หลักๆแล้วก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมหรือยอดแย่ ถ้าใครชอบ Plot เรื่องแนวๆสาวน้อยมืดมนแล้วล่ะก็ คุณจะต้องชอบ Alice : Madness Returns อย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณชอบโลกสีฟ้าครามอันสดใสไร้ซึ่งมลทิน คุณก็ควรที่จะหนีไปให้พ้นจากมันโดยเร็ว เพราะ Wonderland ที่บิดเบี้ยวของ Alice นั้นผิดจาก Wonderland ที่คุณเคยรู้จักมากมายและนองเลือดสุดๆ และยิ่งคุณเข้าใกล้ความจริงมากเท่าใด ความมืดมนก็ยิ่งจะถาโถมเข้าใส่หนักข้อมากขึ้นเท่านั้น (ซึ่งในท้ายที่สุด บอกได้เลยว่าเกมนี้มีหักมุมเล็กๆ และเป็นความจริงที่โหดร้ายมาก แต่อย่างไรนั้นขอไม่พูดถึงนะครับ ให้ไปลองเล่นกันเอาเองละกัน) ถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเข้าใจตัวเนื้อหาของเกมเพื่อที่จะเล่นเกมนี้ โดยส่วนตัวผมเองมองว่าถ้าคุณหวังว่าจะเข้ามาบู๊อย่างเดียวไม่ได้สนใจในส่วนของเนื้อเรื่องเลย ความสนุกและความน่าสนใจของเกมจะลดลงไปมากโข เพราะโดยส่วนตัวผมเองมองว่าเนื้อเรื่องและตัวละครอย่าง Alice Liddell ก็คือจุดขายของเกมนี้ครับ ถ้าตัดรายละเอียดส่วนของเนื้อเรื่องทิ้ง Madness Returns ก็แทบจะไม่ต่างไปจากเกม Action Platform ดาษๆทั่วๆไปเลย แต่ถึงแม้ผมจะบอกว่าเนื้อหาของเกมนี้นั้นยอดเยี่ยมใช้ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม Dialog ของเกมนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็นไปนิด (อันที่จริงก็ไม่นิด ผมว่ามันแย่เลยล่ะ) เพราะ Dialog ของเกมมันให้ความรู้ง่วงขึ้นมาได้เลย ตัวละครส่วนใหญ่พูดเหมือนถูกบังคับให้พูดและมันชวนให้นึกถึงรายการเด็กตอนเช้ามืดมากกว่าจะเป็น Wonderland อันดำมืด แต่เอาเถอะ ก็จัดได้ว่าโชคดีล่ะนะที่ตัวเกมเน้นกระโดดกระเด้งไปตาม Platform ต่างๆมากกว่ามานั่งฟังตัวละครพูด
![]() |
![]() |
ฉาก Action ภายในเกมนั้นทำออกมาได้เร้าใจดีเลยทีเดียว
แม้จะดูไม่เข้ากันกับความน่ารักของ Alice Liddell เลยสักนิดก็ตามทีเถอะ
Alice Madness Returns นั้นจัดได้ว่าเป็นเกมแนว Action/Platform ครับ รูปแบบการเล่นส่วนใหญ่นั้นก็ดังที่ผมว่าไปตะกี๊ คุณจะใช้เวลาส่วนใหญ่เหาะเหินไปตาม Platform ต่างๆราวกับจ้าวยุทธภพมากกว่าจะใช้เวลาเพื่อต่อสู้กับตัวประหลาดที่บอกได้ยากว่าเป็นตัวอะไร สำหรับในส่วนของการบู๊นั้น ตัวเกมจะใช้ระบบคล้ายๆกันกับในเกม Darksiders ซึ่งคุณสามารถที่จะล็อคเป้าหมายเพื่อโจมตีได้ หลังจากนั้นก็กดปุ่มเพื่อใช้อาวุธต่างๆที่ Alice มีอยู่ออกไป เป็นระบบต่อสู้ที่ง่าย ลื่นไหล และสนุกใช้ได้เลยทีเดียวครับ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ดีเยี่ยมมากมายถึงขนาดต้องเอ่ยปากชมเป็นวรรคเป็นวาสักเท่าใดนัก ถือว่าทำได้ดีในระดับที่เกม Action ที่ดีควรจะเป็นครับ สิ่งที่น่าสนใจจริงๆของเกมนี้น่าจะเป็นการออกแบบฉากอย่างสร้างสรรค์มากกว่า นอกจากตัวฉากนั้นจะออกแบบมาได้อย่างมีสีสันสดใสหรือดูหดหู่ได้ใจในบางฉากตามแบบฉบับ Wonderland เวอร์ชั่นสาวน้อยมืดมนแล้ว ปริศนาต่างๆภายในเกมยังออกแบบมาได้อย่างสร้างสรรค์มากมายด้วย ปริศนาภายในเกมนั้นก็ไม่ถึงกับยากเย็นจนเกิไปและก็ไม่ได้ง่ายขนาดเดินๆไปก็เจอ ความยากของปริศนาและความลับต่างๆนั้นจัดได้ว่าอยู่ในระดับพอรับได้ครับ ด้วยความสามารถ Shrink Sense ที่ Alice มี คุณก็จะสามารถตามเก็บปริศนาทั้งหมดได้ไม่ยาก เพราะเมื่อคุณใช้ความสามารถ Shrink แล้ว โลกทั้งใบก็จะกลายเป็นสีม่วงและดูใหญ่โตขึ้น ความลับต่างๆก็จะถูกเผยออกมาในรูปของภาพเขียนหวัดๆเพื่อบอกให้รู้ว่าคุณควรจะใช้ความสามารถใดเพื่อแก้ปริศนา หรือไปทางใดจะพบกับอะไร นอกจากนี้ Shrink Sense ยังช่วยให้คุณมองเห็น Platform ล่องหนที่ลอยอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าอีกด้วยครับ หรือในกรณีที่คุณบังเอิญไปพบกับอุปสรรคต่างๆที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตัวเกมก็จะมีการแนะนำให้ด้วยว่าควรจะผ่านอย่างไรหรือใช้ความสามารถใดเพื่อผ่านไป จึงเป็นไปได้ยากมากๆที่คุณจะติดอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งนานๆเช่นเดียวกันกับเกม Action/Platform อื่นๆ
Shrink Sense จะช่วยให้คุณเห็นโลกที่แตกต่างออกไป cnsound
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยพอขำๆ : Shrink นอกจากจะหมายถึง "หดตัว" หรือ ""หงอเหมือนลูกไก่เพราะถูกขู่ให้กลัว" แล้ว มันยังเป็นศัพท์แสลงที่แปลความได้อีกแง่ว่า "จิตแพทย์" ด้วยครับ
![]() |
![]() |
ท้ายที่สุดมาว่ากันต่อด้วยเรื่องภาพและเสียง ในส่วนของ Graphic นั้นจัดได้ว่าทำออกมาได้ในระดับที่ "พอรับได้" เท่านั้นครับ แต่ก็อีกล่ะ ถ้ามองในแง่บวก มันก็ดูเข้ากันกับตัวเกมดีมากมายเลยทีเดียว และยังไม่กินสเปคสักเท่าใดนักอีกด้วย ผมจึงขอให้เกรด B กับภาพไปเลยครับ ส่วนดนตรีและเสียงที่ใช้ประกอบเกมนั้น โดยส่วนตัวผมชอบมากเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเสียงดนตรีที่เข้ากันกับสภาพแวดล้อมต่างๆภายในเกมอย่างดีมากมาย เสียอย่างตรงที่ส่วนของ Dialog นั้นชวนขัดใจนิดๆดังที่ว่าไปก่อนหน้าแล้วครับ
โดยรวมแล้ว Alice : Madness Returns นั้นเป็นเกมที่ดีอีกเกมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว Action/Platform แนว Old School ครับ ไม่ยากเกินไป ไม่ง่ายเกินไป ไม่กินสเปคเกินไป เล่นสนุก มีสีสัน เนื้อเรื่องจัดได้ว่าดี ไม่มีข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนนอกจาก Dialog บัดซบและ Graphic ที่ดูตกยุคเล็กๆ ถ้ารู้สึกว่างๆอยากได้เกมมาเล่นฆ่าเวลาสักเกม Alice : Madness Returns ก็จัดได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวครับ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง



